มะเขือเทศสีดา
ปลูกได้ตลอดปี แต่ให้ลูกดกในฤดูหนาว ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 70-90 วัน
คุณค่าทางโภชนาการ
มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันกระดูกพรุน บำรุงผิวพรรณ นอกจากนั้นยังมีสารไลโคปีนที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย
มะเขือเทศสีดา
ปลูกได้ตลอดปี แต่ให้ลูกดกในฤดูหนาว ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 70-90 วัน
มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันกระดูกพรุน บำรุงผิวพรรณ นอกจากนั้นยังมีสารไลโคปีนที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย
สรรพคุณทางยา
สามารถใช้ใบ ราก และผลมาช่วยรักษาอาการต่างๆได้
ใบสด นำมาตำคั้นเอาน้ำ ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ นอกจากนั้นยังใช้เป็นยาช่วยให้เจริญอาหาร ทั้งยังช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ลำไส้ และไตอีกด้วย
รากสด นำมาต้มเอาน้ำกลั้วปากใช้แก้ปวดฟัน หรือนำน้ำที่ต้มมาใช้ล้างบาดแผลได้
ผลสุก ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ หากคั้นเอาน้ำมาดื่มจะช่วยแก้กระหาย
การเตรียมดินแปลงปลูก
ขุดไถดินลึก 25-30 เซนติเมตร ตากทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักและทราย ไถพรวนให้กับดิน กำจัดวัชพืชและเศษหิน ยกแปลงให้สูงขึ้น ความกว้างประมาณ 1 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดของพื้นที่ เกลี่ยหน้าดินให้เรียบ
เร่งให้พืชโตไว ลูกดก น้ำหนักดี
การปลูก
1. การปลูกลงแปลง : โรยเมล็ดลงร่องหรือหลุมเล็กๆให้ห่างกันหลุมละ 5-7 เซนติเมตร จากนั้นกลบด้วยแกลบหรือทรายบางๆ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม อาจหาฟางหรือหญ้าแห้งมาปิดหน้าดินเพื่อรักษาความชุ่มชื่น เมื่อเมล็ดเริ่มงอกให้ใช้สารกันราผสมกับน้ำรด 1 ครั้ง จนเมื่อมะเขือเทศอายุ 15 วัน หรือมีใบจริง 2-4 ใบให้ถอนแยกปลูกเพื่อป้องกันการแย่งน้ำและอาหาร เว้นระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร และเว้นระยะระหว่างแถว 70 เซนติเมตร จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกบำรุงอีกครั้งหนึ่ง
2. การปลูกลงกระถาง : เตรียมดินผสมทรายและปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักใส่กระถางให้สูง 30 เซนติเมตร จากนั้นทำหลุมเล็กๆ โรยเมล็ดมะเขือเทศ 3-5 เมล็ดลงในหลุม นำทรายหรือดินละเอียดมากลบ ปิดทับด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง ก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อเล็ดงอกจนมีใบจริง 2-4 ใบ ให้ถอนแยกกล้าเหลือเพียงหลุมละ 2 ต้น
การดูแลรักษา
มะเขือเทศต้องการน้ำสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงเริ่มแก่ เพียงแต่ในแต่ละช่วงจะต้องการน้ำในปริมาณไม่เท่ากัน คือเมื่อเป็นต้นกล้าต้องรดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น แต่เมื่อต้นกล้าตั้งตัวแล้วให้ลดการให้น้ำลงเหลือเพียงวันละครั้ง และเมื่อเริ่มปลูกจนกว่าต้นกล้าจะแข็งแรงควรมีตาข่ายป้องกันแสงแดด โดยเปิดให้รับแสงในช่วงเช้าจนถึง 9 โมงเช้า และเปิดรับแสงอีกครั้งตอน 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
เมื่อผลมะเขือเทศเริ่มแก่ (สังเกตว่าผลเริ่มเปลี่ยนสี) ให้ลดปริมาณการให้น้ำลงอีกหน่อยเพื่อป้องกันผลแตก
สำหรับพันธุ์เลื้อยควรทำค้างให้มะเขือเทศด้วย โดยทำค้างเมื่อต้นเริ่มเลื้อยโดยปักค้างไม้ไผ่ล้อมหลุม เอนปลายเข้าหากันแล้วผูกเป็นกระโจม วางไม้พาดตามแนวขวางกระโจม 2-3 ช่วง เริ่มตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียง 1-2 กิ่ง ต่อต้น
การใส่ปุ๋ยครั้งแรกอาจใส่ในช่วงที่แยกปลูก ครั้งที่สองให้ใส่ถัดมาอีก 15 วันหลังจากนั้นอีก 3 อาทิตย์ค่อยใส่ปุ๋ยอีกครั้งหนึ่ง
การเก็บเกี่ยวสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 70-90 วัน (แล้วแต่สายพันธุ์) และสามารถเก็บเกี่ยวได้จนถึงอายุ 4-5 เดือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น