วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559






ต้นหอม
คุณค่าทางโภชนาการ
                ต้นหอมอุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ลดคลอเลสเตอรอล เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย


สรรพคุณทางยา

                สามารถนำใบ ต้น และหัวมารักษาอาการได้โดย
                ต้น กินทั้งต้นต่อเนื่องสดๆ จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด รวมทั้งบำรุงหัวใจ
                ใบ ใช้ใบ หรือก้านต้นหอม 5-6 ก้านต้มกับขิง 2 แว่น กรองเอาน้ำมาดื่ม ช่วยขับเหงื่อ ลดไข้
                ใบและหัว นำมาทุบให้แตกใส่เหล้าขาว ใช้แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล


การเตรียมดินแปลงปลูก
                ขุดดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินไว้ 5-7 วัน แล้วผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก พรวนดินให้ละเอียด เก็บเศษหินกำจัดวัชพืช ยกแปลงเป็นร่องสูงขนาดความกว้าง 1 เมตร ความยาวแล้วแต่พื้นที่ว่าง จากนั้นปรับหน้าดินให้เรียบ
การปลูก
1. การปลูกลงแปลง : รดน้ำแปลงให้ชุ่ม คัดเลือกหัวพันธุ์หอมที่มีรากติดอยู่ แกะกลีบหัวพันธุ์ออกมาเล็กน้อย แล้วปักหัวพันธุ์ลงดินประมาณครึ่งหัว เว้นระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว 15 เซนติเมตร จากนั้นนำหญ้าหรือฟางแห้งมาคลุมหน้าดินก่อนรดน้ำให้ชุ่ม

2. การปลูกลงกระถาง :  เตรียมดินผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกใส่ในกระถางให้มีความสูง 20-25 เซนติเมตร พรวนให้ร่วนพร้อมเกลี่ยหน้าดินให้เรียบแล้วรดน้ำจนชุ่ม แกะกลีบหัวพันธุ์หอมที่มีรากโผล่เล็กน้อย นำมาปักลงดินให้ลึกประมาณครึ่งหัว จากนั้นนำฟางข้าวหรือแกลบมาคลุมดินเพื่อรักษาความชื้น เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม





การดูแลรักษา


                รดน้ำเช้า-เย็น เมื่อต้นหอมเริ่มมีใบยาวให้ลดการให้น้ำเหลือเพียงวันละครั้ง เมื่อต้นหอมอายุ 15-20 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 20-10-10 หรือสูตร 46-0-0 พยายามรักษาความชื้นให้ดินไว้ โดยการนำฟางแห้ง หญ้าแห้ง เปลือกถั่วลิสงหรือแกลบดินคลุมหน้าดินไว้ เมื่อต้นหอมมีอายุ 30-35 วัน หรือมีความสูงประมาณ 1 ฟุต ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น